มีหลายวิธีในการทำสีย้อมผมและยังมีอีกหลายวิธีที่จะใช้สีย้อมผม วันนี้ ผมจะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์ของการย้อมผม! 1. ก่อนย้อมผม: (1) ซื้อสีย้อมผมแบบธรรมดาและทดสอบการแพ้ ใช้สีย้อมผมเล็กน้อยหลังใบหูหรือที่แขน 1-2 วันก่อนย้อมผม และตรวจดูหลังจากผ่านไป 10 นาที หากไม่มีอาการระคายเคือง เช่น แดง บวม แสบร้อน เป็นต้น ก็สามารถใช้ต่อไปได้
หากเกิดการระคายเคืองแนะนำให้หยุดทันที ถ้าปฏิกิริยารุนแรงให้ไปโรงพยาบาลโรคผิวหนัง (2) ทำหน้าที่ปกป้องผิวได้ดี
ทาโลชั่นหรือปิโตรเลียมเจลลี่บริเวณไรผมและหลังใบหูก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สีย้อมผมสร้างมลภาวะต่อผิวหนังและทำให้เกิดความเสียหาย 2. ระหว่างการย้อมผม: (1) หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูง อย่าสระผมด้วยน้ำร้อนและไม่แนะนำให้ยืนใต้เครื่องทำความร้อนในห้องน้ำซึ่งอาจเร่งการสูญเสียเม็ดสีและส่งผลต่อผลการย้อมผม (2) หลีกเลี่ยงการสร้างมลภาวะต่อส่วนอื่นของผิวหนัง
หากเผลอไปโดนผิวหนังควรเช็ดสำลีหรือกระดาษเช็ดหน้าออกให้เร็วที่สุด ล้างออก ด้วยน้ำสะอาด และทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหากจำเป็น (3) ขณะย้อมผม แปรงจากโคนจรดปลายผม ปลายผม ใช้ติดขนตาและขนคิ้ว (4) ไม่แนะนำให้ย้อมและดัดผมพร้อมกัน เพราะกระบวนการย้อมผมเปรียบเสมือนการเปิดเกล็ดผมและใส่อนุภาคของเม็ดสีเข้าไป หลังจากทำสีผม การดัดผมจะเปิดเกล็ดผมอีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียสีและความเสียหายต่อเส้นผมของคุณ
3. หลังการย้อมผม: (1) หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงและการสัมผัส ความร้อนและแสงสามารถกระตุ้นอัตราการเกิดออกซิเดชัน เร่งการซีดจางของสีย้อมผม ดังนั้นหลังการย้อมผม ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและอุณหภูมิสูง และปกป้องแสงแดดสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน เวลาสระผม อุณหภูมิของน้ำไม่ควรร้อนเกินไป เวลาเป่าผม อุณหภูมิของน้ำ ไม่ควรตั้งไดร์เป่าผมสูงหรือใกล้เส้นผมเกินไป
(2) ดูแลเส้นผมให้ดี ขอแนะนำให้ใช้แชมพูที่มีค่า pH เป็นกรดอ่อนๆ และให้ความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผม และหลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่มีพลังในการทำความสะอาดสูง เช่น เบสสบู่ ซึ่งจะเร่งการซีดจางของเส้นผม ครีมนวดผม น้ำมันหอมระเหยดูแลเส้นผม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ สามารถช่วยปิดเกล็ดผม และชะลอการหลุดร่วง จางลง ซ่อมแซมผมเสีย